“ ยิปซี – คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ ” ดาราสาว หุ่นแซ่บ อินฟลูเอนเซอร์ เรื่องสุขภาพที่กำลังฮอตปรอทแตกมากในขณะนี้ ซึ่งเธอมักโพสภาพอวดความเซ็กซี่ ด้วยหุ่นสวย แซ่บ เอวบาง ลงไอจี เป็นไอดอลด้านสุขภาพของสาวๆแต่ใครจะรู้เลยว่าเธอต้องเจอกับอะไรที่หนักมากๆกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ โดยล่าสุด “ ยิปซี ” ได้เขียนแคปชั่นร่ายยาวไว้เกี่ยวกับโรคที่เธอต้องเจอ เพื่อแชร์ประสบการณ์และให้ความรู้แก่ทุกคนด้วย เธอเขียนลงไอจีพร้อมลงภาพน้ำหนักที่ลบฮวบ จนเอฟซีต่างเข้ามาคอมเม้นต์เป็นห่วงและให้กำลังใจอย่างล้นลาม เธอเขียนว่าอย่างไรนั้น ไปอ่านพร้อมกันเลยค่า
“ ยิปซี – คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ ” แชร์ประสบการณ์รับมือกับการป่วยเป็นแพนิค
“ Mental health journey / จาก depression / PMDD / เข้าสู่ panic disorder ”
ในตลอดระยะเวลา 9 เดือน ที่ทำความรู้จักกับ โรคใหม่ .. รักษา .. ปรับตัว. เราได้เจอ และได้คุยกับคนที่ เป็นแบบเดียวกันจำนวนเยอะมากจนน่าตกใจ จากที่เคยต่อสู้กับ ดีเพรส มา อยากบอกว่า แพนิค น่ากลัวไม่แพ้กัน ความกลัว และอาการทางร่างกาย กระทบต่อการใช้ชีวิตมากๆมันทำให้เรา ไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าใช้ชีวิตคนเดียว ไม่กล้าแม้กระทั่งขับรถ เพราะกลัวว่าอาการจะมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญ สุขภาพก็อ่อนแอลงมาก มีปัญหาเรื่องการนอนรุนแรง และ น้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างน่าตกใจ ยิปทำอีพีสรุปอาการ / วิธีการที่ใช้ดีลกับอาการไว้ให้แล้วใน you tube #ไหนเล่าซิ๊ นะ ขอฝากโพสต์นี้ไว้เพราะอยากให้หลายๆคน aware กับ เรื่อง mental health ทุกชนิด หมั่นเช็คตัวเอง.. เคลียร์พลังงานลบๆ เคลียร์ใจ คุยกับตัวเองบ่อยๆและอยากให้ทุกคนช่วยเป็น support system ของกันและกันนะ :-)) สุดท้าย เราขอขอบคุณมากๆสำหรับ support system ในชีวิตของเรา .. ป๊า ม๊า โซ . นิค. เนะ ปาย . และเพื่อนๆ อีกหลายคน ที่ทำให้เหตุการณ์ยากๆและน่ากลัวนี้ เบาลงไปได้เยอะ..ขอบคุณนะ..”
อย่างที่ยิปซีได้กล่าวไว้ว่าก่อนหน้านี้เธอต้องต่อสู้กับโรคดีเพรสอย่างหนัก เมื่อปี 2566 ยิปซีเคยมาแชร์ประสบการณ์เป็นโรคซึมเศร้าเพราะการลดน้ำหนัก ที่ทำให้เธอแขวนความสุขไว้กับตาช่างและผู้คน เธอเคยให้สัมภาษณ์ใน the cloud เมื่อปี 2565 ซึ่ง the cloud ได้ให้สองพี่น้องสัมภาษณ์กันเอง มีเนื้อความว่า
“ อีกจุดเปลี่ยนหนึ่งคือ ช่วงที่เจ๊เหมือนกลายเป็นไอคอนด้านการออกกำลังกาย ตอนแรกเจ๊มีความสุขมากเลยนะ เมื่อก่อนเจ๊เป็นเด็กขี้โรค บี๊ก็รู้ เจ๊เลยหันมาออกกำลังกาย แล้วดันมีผลพลอยได้คือรูปร่างที่ดี แถมมีคนชอบ มากกว่านั้นคือหาเงินได้ด้วย เฮ้ย วิน-วิน ไปหมด กลายเป็นภาพจำของ ยิปซี คีรติ ไปช่วงหนึ่ง จนกระทั่งถึงจุดที่สามสิบกว่า ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายหรือคุมอาหารมากแค่ไหน ผลลัพธ์ก็ไม่เหมือนเดิม เราไม่สามารถทำให้ร่างกายคงที่เหมือนตอนยี่สิบห้าได้ ช่วงนั้นเราป่วย ดีเพรส เรากดดันตัวเอง รู้สึกทำให้คนอื่นผิดหวัง กลัวว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกับสิ่งที่เรากลัวแล้วเข้ามาคอมเมนต์ สิ่งที่เจ๊เคยมีความสุขกลายเป็นแหที่รัดและคลุมเจ๊จนไปไหนไม่ได้ มีช่วงหนึ่ง อันนี้ไม่เคยเล่าที่ไหนเลยนะ เจ๊ไม่กล้ามองกระจกเลย เห็นกระจกแล้วจะหันหนี เพราะกลัวส่องแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย เจ๊ผ่านตอนนั้นมาได้เพราะเพื่อนที่ทำ ไหนเล่าซิ๊ บอกเราว่า “ เธอควรใจดีกับตัวเองมากขึ้นนะ คนเราต้องแก่ขึ้น มึงสามสิบกว่าแล้ว ทำมาได้ขนาดนี้ มึงลืมชมตัวเองไปบ้างรึเปล่า ” คำพูดเหล่านี้ดีมากๆ มันช่วยให้เจ๊ไม่ใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป ” ยูทูปช่องไหนเล่าซิ๊ เป็นช่องยูทูปที่เธอได้ทำร่วมกับเพื่อนๆที่สนิทกันมาก นั่นคือปายและเนะ เธอได้แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการต่อสู้กับโรคแพนิคไว้ในช่องไหนเล่าซิ๊ ซึ่งมีอะไรบ้างนั้น เดี่ยวจะสรุปให้ฟังค่ะ
เริ่มแรกเธอได้เล่าว่าแพนิคจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั้นคือ panic attack และ panic disorder ซึ่ง panic attack คืออาการแพนิคที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เป็นนานๆครั้ง มักจะเกิดขึ้นช่วงที่มีความเครียดแล้วก็หายไปเลย ส่วน panic disorder คือแพนิคที่เป็นโรคคือเป็นบ่อย ถี่ๆเป็นตลอด หากเป็นบ่อยหรือถี่อย่างนี้ควรเข้ารับการรักษาด้วยการกินยา เพราะยาจะช่วยทำให้เคมีในร่างกายบาลานส์ สำหรับอาการของแพนิคจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่บุคคล ไม่ตายตัว แต่ในกรณีของยิปซีนั้นเธอเล่าว่าเป็นแพนิคครั้งแรกในขณะขับรถ ด้วยอาการรู้สึกมึนๆ และมีเสียงวี้ดในหู หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการชาที่ขา แล้วเริ่มลามมาที่มือ นั้นคือรู้สึกเหมือนว่ามือจะหายไป เมื่อเกิดสถานการณ์รูปแบบนี้ เธอเริ่มกลัวและวิตกกังวลมาก ว่าตัวเองเป็นอะไร เป็นโรคหัวใจหรือเปล่า เพราะอาการคล้ายๆกัน เพราะนอกจากอาการที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีอาการหัวใจเริ่มเต้นเร็วและแรง เหงื่อแตก เมื่อถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ทำให้รู้สึกตัวเหลว แขนขาอ่อนแรง เหมือนคนกำลังหัวใจวายตาย ฉันนั่งฟังแล้วพึ่งรู้ว่าแพนิคน่ากลัวกว่าที่คิดมาก หลังจากวันนั้นอาการเหล่านี้ก็จะเป็นบ่อย เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะเมื่อเป็นครั้งหนึ่งร่างกายจะจดจำความรู้สึกที่เป็นมาแล้ว ทำให้เราเกิดความกลัวว่าจะเป็นอีก เธอมักจะต้องโทรหาเพื่อนคุยระหว่างขับรถ เพื่อที่ว่าหากเกิดเหตุการณ์นั้นอีกจะได้มีคนรับรู้ เธอมีอาการอย่างนี้อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในรถจะเกิดขึ้นถี่ที่สุด สุดท้ายอาการที่เธอคิดว่าเป็นหนักที่สุด คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานวันเกิดตัวเอง เป็นหนักมากจนคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว จึงตัดสินใจไปหาหมอ เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่เคยเป็นโรคแพนิค ซึ่งมีอาการเหมือนที่ยิปซีเล่าเลย เธอเป็นตอนขับรถเหมือนกัน เหมือนกลัวโดยไม่รู้สาเหตุ ไปต่อไม่ได้ กลับก็ไม่ได้ สุดท้ายต้องโทรให้คนมาช่วย ตอนนี้อาการของเธอค่อยยังชั่ว แต่ก็ยังกลัวการขับรถคนเดียว ฉันจึงต้องซ้อนท้ายไปเป็นเพื่อนเธอบ่อยๆ ปายเพื่อนของยิปซีได้เล่าสิ่งที่น้องชายซึ่งเป็นหมอได้บอกว่า
“ สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคนที่เป็นดีเพลสชั่นจริงๆคือ คนไข้ไม่เปิดใจที่จะกินยาและเข้ารับการรักษา มันคือเป็นเหตุผลที่เขาฆ่าตัวตาย ”
เพราะฉะนั้นการยอมรับว่าตัวเราป่วยและเข้ารับการรักษาถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับคำแนะนำการรับมือเมื่อเกิดอาการ ยิปซีได้บอกว่า
“ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือสติ ต้องพยายามให้ตัวเองมีสติมากๆ จากนั้นคือพยายามเบี่ยงเบนสมอง คือคิดอะไรหรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้สมองเบี่ยงเบนจากอาการที่เป็นอยู่และพยายามตีตัวเองเบาๆเพื่อให้รับรู้การสัมผัส สุดท้ายสิ่งที่สำคัญมากๆเลยคือการบอกกับตัวเองว่า โรคนี้ทำให้รู้สึกว่าจะตายแต่จำไว้ว่ามันไม่ตาย ”
สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกว่าสำคัญมากๆ ซึ่งสัมผัสได้จากการดูคลิปคือการมีคนรอบข้างที่ดีและเข้าใจกับโรคที่เราเป็นอยู่ เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว ยิปซีโชคดีมากๆที่มีครอบครัว น้องสาว สามีและเพื่อนๆที่เข้าใจ สุดท้ายหากใครที่เป็นโรคนี้อยู่ อยากฟังรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแลกเปลี่ยนเรื่องราว อาการ ความรู้สึก และให้กำลังใจ สามารถเข้าไปฟังได้ที่ ช่องไหนเล่าซิ๊
สุดท้ายแล้วขอให้ทุกคนห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพจิต สุขภาพกายดีไปด้วยกัน และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังประสบกับโรคนี้อยู่นะคะ คิดเสียว่ายิปซียังหายได้คุณก็หายได้เหมือนกันค่ะ